หลายคนคงเคยเห็นและได้ยินเกี่ยวกับการขอสินเชื่อประเภท MRR แต่ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำความเข้าใจเท่าไหร่นัก เพราะข้อมูลส่วนใหญ่มักแสดงตัวเลขที่น่าสับสน รวมไปถึงไม่ทราบด้วยว่าตัวเลขเหล่านี้บอกอะไรได้บ้าง สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ที่กำลังเริ่มทำความรู้จักกับการขอสินเชื่อประเภท MRR ปัจจุบัน มาลองทำความเข้าใจให้เพิ่มมากขึ้นด้วยบทความนี้

MRR คืออะไร

MRR หรือ Minimum Retail Rate เป็นอัตราดอกเบี้ยประเภทหนึ่งซึ่งถูกคิดคำนวณแบบลอยตัว หรือ Floating Rate ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยจึงไม่คงที่ โดยจะแปรผันไปตามปัจจัยต่าง ๆ ของทางธนาคาร สำหรับใครที่กำลังสับสนอยู่ว่าการคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวของ MRR เป็นอย่างไร ก็อาจจะสรุปง่าย ๆ ว่าเป็นค่าดอกเบี้ยที่มีการแปรผันหรือปรับเปลี่ยนได้ตามปัจจัยต้นทุนของธนาคาร จึงไม่ต้องตกใจว่าทำไมเมื่อเข้าไปสอบทางกับทางธนาคารแล้ว ตัวเลขอัตราดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยดูหรือศึกษาไว้

นอกจากนี้แล้ว MRR ยังเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ทางธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี ซึ่งจะแตกต่างกับ MLR และ MOR ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ทางธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไม MRR มักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อประเภท MLR หรือ MOR เช่น ดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ 6.15%, MLR อยู่ที่ 5.75% และ MRR อยู่ที่ 5.90% ซึ่งเป็นเพราะว่าลูกค้ารายย่อยมีความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ มากกว่าลูกค้ารายใหญ่ 

การตั้ง MRR ปัจจุบันมีการพิจารณาปัจจัยใดบ้าง

  1. การพิจารณาและประเมินลูกค้า แน่นอนว่าเมื่อยื่นขอสินเชื่อ MRR ทางธนาคารก็จำเป็นที่จะต้องประเมินความเสี่ยง หรือปัจจัยต่าง ๆ ของลูกค้า เช่น ขอสินเชื่อประเภทใด หากเป็นสินเชื่อประเภทที่อยู่อาศัย เป็นที่อยู่อาศัยประเภทไหน ดังนั้นแล้วไม่ต้องตกใจเลยว่าทำไมอัตราดอกเบี้ย MRR ของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเหตุการณ์ นาย A และนาย B ทำงานอยู่ที่บริษัทเดียวกัน และยื่นขอสินเชื่อประเภทที่อยู่อาศัยในเวลาเดียวกัน แต่นาย A ยื่นขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้าน ส่วนนาย B ยื่นขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ทั้งสองคนจึงได้อัตราดอกเบี้ย MRR ที่ไม่เท่ากัน เป็นต้น
  2. ต้นทุนของทางธนาคาร เช่นเดียวกับการประเมินลูกค้าแต่ละคน ต้นทุนของแต่ละธนาคารก็จะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สภาพคล่องของทางธนาคาร จำนวนหนี้เสีย หรือเงินสำรองต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นว่าแต่ละธนาคารมีอัตราดอกเบี้ย MRR และการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังจะยื่นขอสินเชื่อ อย่าลืมเปรียบเทียบความแตกต่างของแต่ละธนาคารให้ดี เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่คุ้มค่ากับตนเองมากที่สุด
  3. อ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ย MLR โดยหากอัตราดอกเบี้ย MLR มีการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็จะมีการปรับดอกเบี้ยประเภท MRR ปัจจุบันให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยประเภท MLR ด้วย

ทั้งหมดนี้ก็คือรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ MRR ปัจจุบันที่เมื่อทำความเข้าใจได้แล้วก็จะไม่ใช่เรื่องยากเลย ใครที่กำลังจะทำเรื่องขอสินเชื่อก็อย่าลืมที่จะเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย MRR ของแต่ละธนาคารให้ดี ส่วนใครที่อยากอัปเดตอัตราดอกเบี้ย MRR, MLR และ MOR ในปี 2564 นี้ หรือติดตามข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ  เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ DDproperty.com เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ได้รวบรวมข้อมูลประกาศซื้อ ขาย เช่า ที่น่าสนใจทั้งโครงการใหม่และบ้านมือสองในหลากหลายทำเลครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเป็นแหล่งรวมความรู้ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการซื้อ-ขาย-เช่า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการตัดสินใจซื้อให้ผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองสามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด

Nora